วันเสาร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เล่าเรื่องเรื่องหนึ่ง มีฝรั่งคนหนึ่ง

เล่าเรื่องเรื่องหนึ่ง มีฝรั่งคนหนึ่ง ผมถามเขาว่าเขานับถือศาสนาอะไร เขาบอกใจจริงแล้วเค้าไม่ได้นับถือศาสนาอะไรเลย ที่พ่อแม่ลงไว้ให้ก็แค่ ตัวหนังสือเท่านั้น เขาบอกว่าเขาอยู่กับความเชื่อมั่นในตัวเขาเอง เขาเป็นอาจารย์สอนภาษาหลายภาษาพูดภาษาไทยชัดมากๆรู้ลึกมากๆ เขาเคยไปอยู่จีน ญี่ปุ่น และเดินทางไปในหลายประเทศ เขาเป็นชาย หน้าตาดีมากๆครับ เขาบอกว่าถึงเค้าจะไม่นับถือศาสนาอะไร แต่เค้าก็รู้ว่าศาสนานั้นๆสอนอะไร และมีอะไรบ้าง เขาชอบศึกษา เขาบอกว่าถึงเขาไม่มีศาสนา เขาก็จะไม่ทำชั่วหรือทำในสิ่งที่ไม่ดีไม่ถูกต้องเขารู้สิ่งไหนผิดสิ่งไหนถูก เค้ายังบอกว่าคนไทยสอนว่าถ้าทำดีขึ้นสวรรค์ ทำชั่วตกนรก เขาก็รู้ครับ เขาสามารถแยกแยะความดี และความชั่วออก เขามีจิตเมตตาสงสาร อ่อนน้อมถ่อมตนมากครับตรงนี้มันทำให้ผมรู้ว่า การทำดีทำชั่วนั้น มันอยู่ที่ตัวเราเอง แยกแยะความถูกผิดได้เอง รู้ว่าเราไม่ชอบอะไรคนอื่นก็ไม่ชอบอย่างนั้น ไม่ได้เกี่ยวกับศาสนาเลยครับ บางครั้งคนที่มีศาสนา ยังทำความชั่วมากกว่าคนที่ไม่มีศาสนาเสียอีก ศาสนาไม่ได้อยู่ที่คำพูดหรือปฏิบัติ ศาสนามันอยู่ที่ใจ ผมคิดว่าฝรั่งคนนั้นเค้ามีศาสนาที่สร้างจากตัวเขาเอง แต่เขาไม่รู้ว่านั่นแหละคือศาสนาของเขา ครับ
..ตรงนี้ผมอยากจะบอกว่า คนเราดีชั่วอยู่ที่ตัวเราที่จะเลือกเป็นครับ ศาสนาไม่มีสิทธิ์มาเลือกให้เรา
เป็นคนดี หรือคนชั่วได้ สัญชาตญาณในสิ่งที่เรากลัวเราไม่ชอบเราไม่อยากเจอ คนอื่นเขาก็ไม่อยากเจอ
เหมือนกันกับเราครับ เอาใจเขามาใส่ใจเรา แล้วจะเข้าใจ ครับผม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แค่คิดว่าอยากเป็นคนดี ก็ใช้ได้แล้วเพื่อน

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น