วันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

พระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้ อริยสัจ4 คือรู้แจ้ง ในความเป็นจริง มีเหตุมีผล

1.ทุกข์ คือ ความไม่เที่ยงนั้นเป็นทุกข์ เมื่อรู้ทุกข์แล้ว จึงไปหาเหตุแห่งทุกข์ คือไปหาสมุทัย
2.สมุทัย คือ ตามรู้ว่าเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์นั้นๆเป็นมาอย่างไร จึงไปหาวิธีการ ดับทุกข์ คือไปหา มรรค คือการปฏิบัติ เพื่อดับทุกข์
3. นิโรธ คือ ไม่มีทุกข์ ดับแล้วซึ่งทุกข์ทั้งหลายทั้งปวง เป็นผลมาจากการปฏิบัติตามองค์มรรค การไม่มีทุกข์นั้นก็ต้องไม่มีกิเลศเลย ถึงจะไม่มีทุกข์ ตรงนี้ พระพุทธเจ้าท่าน กล่าว สรรเสริญ ว่า นี่คือแก่นแท้ ของศาสนาพุทธ คือปฏิบัติเพื่อ ระงับทุกข์ ดับกิเลศ ซึ่งเป็นหนทางสู่พระนิพพาน นั่นเอง
4.มรรค คือการ ปฏิบัติ ให้หายทุกข์ ก็คือการปฏิบัติ แล้วเกิดนิโรธ คือ ไม่มีทุกข์ นี่คือผลของการเดินตาม มรรค แล้วจึงเกิด นิโรธ ซึ่ง นิโรธ ก็คือ ผลที่ได้ จากการปฏิบัติ ตามมรรค นั่นเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แค่คิดว่าอยากเป็นคนดี ก็ใช้ได้แล้วเพื่อน

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น