อุปมานุสติ นิพพานนัง อธิจิตสิกขา อภิญญาโลกีย์ !คิดถึงพระนิพพานเป็นปกติ เป็นอารมณ์ ไม่มีอะไรเป็นของเราแม้แต่ร่างกายก็มีเจ้าของมาจอง คือมรณะภัย มันมาทวงของมันคืนการรักษาอารมณ์สมาธิ เป็นอธิจิตสิกขา เป็นสิ่งที่พระต้องทำคนต้องทำ มิใช่ควรทำ หากทำแล้วยังติดในโลก ก็ยังไม่พ้นในวิสัยกามคุณเรียกว่ายังเป็นอภิญญาโลกีย์อยู่ก็ยังดี แต่ถ้าเผลอเมื่อไหร่ก็แพ้มันทันทีฉะนั้นเมื่อได้ฌาณได้ญาณแล้ว ให้ตัดสังโยชน์5ให้ได้ ถ้าตัดได้จะไม่มีความรู้สึกทางเพศเกิดขึ้นเลย
สังโยชน์5มี
1.ติดในร่างกาย ว่าเป็นของเรา มันเที่ยง มันมี แม้แต่จิต ก็ว่ามันเที่ยง มันมีอยู่ ติดทั้งภายในภายนอกจิตนั้นเมื่อถึงคราหลุดพ้นแล้ว มันดับ มันมีก็เหมือนไม่มี ไม่มีก็เหมือนมี จึงไม่เรียกว่ามันเที่ยง หรือไม่เที่ยง เป็นสุข โดยไม่มีร่างกายนั้น คือนิพพาน เป็นสูญญาตา คือความว่าง จริงๆมิมีคำเรียกใด ว่ามีหรือไม่มี ใช่หรือไม่ใช่ เป็นหรือไม่เป็น อยู่เหนือสุขหรือทุกข์ใดๆเป็นความบริสุทธิ์เหนือสมมุติใดใดโดยสิ้นเชิง
2.อาการสงสัยต่างๆ สงสัยจนเกินเหตุ เป็นกังวล และเป็นทุกข์ ไม่สบายกาย ไม่สบายใจ มันหนักๆ
3.ไม่อยู่ในศีล( คือในครั้งแรกเรานั้นรักษาศีล แต่เมื่อสำเร็จแล้ว ศีลนั้นจะกลับมารักษาเราเอง)ในครั้งแรกเราเดินตามสายกลางอยู่แต่เมื่อสำเร็จแล้วทางสายกลาง มันกลับต้องมาเดินตามเรา เราไม่เดินตามมันอีกต่อไปแล้ว เราไม่ยึด ทุกสิ่ง แต่ทุกสิ่งจะมายึดเรา ก็เรื่องของมัน ของธรรมชาติ ไม่เกี่ยวอะไรกับเราแล้ว เป็นเรื่องของมัน ไม่ใช่ของเรา มันก็หลุดพ้น จากทุกสิ่งแค่นั้นเอง
4.ยังมัวเมา ในกามคุณ คือ รูปรสกลิ่นเสียงสัมผัส และเรื่องทางเพศ
5.ยังมีอารมณ์โกรธ อาฆาตแค้น น้อยเนื้อต่ำใจ หรือซึมเศร้า อยู่
อธิบาย ขยายความ เดลิเวอรี่ ธรรมบท บทที่ 3
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แค่คิดว่าอยากเป็นคนดี ก็ใช้ได้แล้วเพื่อน
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น