วันพุธที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ในพุทธศาสนาคำว่านิพพานอีกนัยหนึ่ง

นิพพาน คือการไม่มาเกิดแล้ว เมื่อไม่มาเกิดแล้ว ก็ไม่มีการตายแล้ว เมื่อไม่มีการตายแล้ว ก็ไม่มีการเกิดแล้ว ไม่มีเวลาจะเดินหน้าหรือถอยหลังแล้ว ก็ไปไหนไม่ได้แล้ว เมื่อไปไหนไม่ได้แล้ว จะไปเกิดได้ยังไง
1.การจะไปเกิดและการจะไปตายต้องติดอยู่ภายใต้ ช่วงกาลเวลาทั้งนั้น จะสั้นยาวช้านานก็คือกาลเวลาทั้งนั้น ในสามโลกที่รู้ๆมาก็มีเวลาทั้งสิ้น ไม่มีตรงไหนไม่มีเวลามาบังคับนอกจาก นิพพานคือไม่มาเกิด
2.เมื่อไม่มาเกิดและไม่ตายแล้ว ก็ต้องไม่มีกาลเวลามาบังคับแม้นิดเดียว หากนิพพานคือการไม่มาเกิดแล้ว ในนิพพานนั้นก็ต้องไม่มีกาลเวลาเดินอีก ต่อไป หากมีเวลาก็ต้องมาเกิดอีก ตามหลักเหตุและผลนี้
3.นิพพานที่ไม่มีกาลเวลาจะเป็นอย่างไร นิพพานที่ไม่มีเวลานั้นรู้แจ้งแทงตลอดเหมือนทุกสิ่งคือตัวเองเช่น เสียงนกนี้ร้องจึงมีเสียงได้ยินว่าเป็นเสียงอย่างไร แต่นิพพานนี้รู้แล้วโดยที่นกนี้ยังไม่ร้องเลย คนทั้งโลกนี้จะทำอะไรคิดอะไรรู้หมดแล้วทั้งอดีตและอนาคตทุกสิ่งรู้อยู่ที่เวลาศูนย์หมดแล้วเหมือนกับว่าทุกคนก็คือตัวเราเองไม่ต้องแสดงอะไรก็รู้แจ้งหมดแล้วคือรู้ทุกสิ่งของทุกสิ่งที่ผ่านไปแล้วยังไม่ผ่านหรือในอนาคตรู้อยู่รวมอยู่ในจุดๆเดียวหมดแล้ว โดยที่โลกนี้จักรวาลนี้ไม่ต้องแสดงอะไรออกทั้งสิ้น เหมือนของในโลกนี้จักรวาลนี้มันคือตัวเราเองหรือมันอยู่ภายในตัวเราหมดแล้ว มันรู้เองแล้ว โดยที่ยังไม่มีการแสดงออกก็รู้แล้ว เป็นยังไงๆไม่ต้องมาบอกอะไร รู้สิ้นเองแล้วในทุกสิ่ง รู้ในขณะเวลาเป็นศูนย์ รู้แล้วโดยไม่ต้องอธิบายอะไรเลยไม่มีใครมาบอก มันรู้ด้วยตัวเอง เหมือนสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิตต่างๆในโลกนี้ทั้งหมด มันคือเราอันเดียวจึงรู้สิ้น ไม่ต้องมีอะไรๆมาแสดงให้รู้ ซึ่ง คำเขียนนั้นก็มิอาจเขียนให้เข้าใจลึกซึ้งให้เข้าใจมากกว่านี้แล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แค่คิดว่าอยากเป็นคนดี ก็ใช้ได้แล้วเพื่อน

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น