ใน พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒ ทีฆนิกาย มหาวรรค (ทีแรกอ่านก็งงๆคืออะไร) พระผู้มีพระภาคออกจากจตุตถฌานแล้ว เสด็จปรินิพพานในลำดับ แห่งการพิจารณาองค์จตุตถฌานนั้น
.........................................................................................................
ผมขออธิบายตรงจุดนี้ เพราะเป็นจุดตาย จุดไครแม็ก จุดสำคัญ ผมเชื่อว่าท่านอ่านแล้ว สุดแค่นั้นไม่เข้าใจหรอกทีแรกผมก็ไม่เข้าใจจึงต้องค้นหา สิ่งนี้พระพุทธเจ้าท่านรู้มาก่อนเราแล้ว แต่คำที่บันทึกนั้น ไม่ขยายความให้เข้าใจพอ ลึกลงไปอีก จึงไม่เข้าใจ หวังว่า จะมีประโยชน์ กับคนที่ อยากรู้ว่าพระพุทธเจ้าเรา ดับขันธ์ตรงไหนกันแน่ แต่ก็อย่าเชื่อผม ให้คิดเอง ว่าเป็นไปได้ไหม ด้วยเหตุและผลนี้...ให้คิดตามความเป็นจริง จากพระไตรปิฎก จากครูอาจารย์ ที่สอนสั่ง จากข้อมูลต่างๆ มาวิเคราะห์
..พระพุทธเจ้าปรินิพพานเรามาตีความพูดแบบภาษาชาวบ้านฟังง่ายๆเข้าใจง่ายๆก็คือ ก่อนพระองค์ จะปรินิพพาน ท่านเป็นผู้หมดจดจากกิเลศแล้วจึงมีพลังจิตเข็มแข็งมาก ท่านทรงเกษมฌานที่มีทั้งหมด ไปมา ขึ้นๆลง ไปจนสุดฌาน10 เป็นนิโรธ สมาบัติ แล้วลงมาต่ำสุด เป็นปฐมฌาน คือฌาน1เหมือนร.ป.ภเดินสำรวจความเรียบร้อย จนมั่นใจว่าคล่องตัวแล้ว ปลอดภัยแล้ว ในสุดท้ายท่านมาหยุดที่จตุตถฌาน คือฌาน4 แล้วพิจารณา สิ่งต่างๆที่ผ่านมาในชีวิตของท่าน ตามความเป็นจริง มิมีกิเลศ หรือจิตใต้สำนึกเข้ามาพัวพัน ซึ่งจิตนี้ จะเป็นตัวดึงจิตไปสู่ภพภูมิอีก ท่านไม่มีภวังคจิตมัวเมา อันนี้ คงตั้งสติสัมปชัญญะ รวมสมาธิมั่นคง รู้ถึงวาระจิตที่จะดับแล้ว ว่า จะดับ ตรงไหนจึงจะสมบูรณ์แบบ พอท่านคลายจตุตถฌาน คือฌาน4 เพียงนิดเดียว ท่านก็นิพพาน ซึ่งมีโอกาส เท่าเส้นผม อยู่ระหว่างต้นๆ จตุตถฌาน คือฌาน4 และฌาน5 คือยังไม่ถึง อากาสนัญจาย-ตนะ ตรงนี้ เป็นจุด ไครแม็ก ที่ผมอยากจะบอก กับทุกท่านครับ ท่านดับขณะจิตปล่อยว่าง จากฌาน4ช่วงต้นๆระหว่างไปไปฌาน5 คืออากาสนัญจาย-ตนะ ซึ่งตรงจุดนี้ เป็นจุดดับ คือจุดว่าง ไม่มีญาณหรือฌาน ใดมาผูกมัด ไม่มีภพภูมิมาผูกมัด เป็นระหว่าง แต่อยู่ต้นๆฌาน4ไปทางฌาน5 จึงไม่อาจจะเรียกว่าท่าน ดับขันธ์ ในฌานใด ตรงนั้นไม่เรียกว่าฌานใดเป็นประตูช่องว่างระหว่าง ไม่เรียกว่ามีรูปฌาน หรืออรูปฌาน คือ มีเหมือนไม่มี ไม่มีเหมือนมี ตรงนั้นจริงๆ ไม่มีคำเรียกว่าสิ่งใดใดเอาอะไรมาเรียกก็ไม่ได้เพราะเป็นจุดว่างเหมือนท่านแทรกตัวออกไปซึ่งมีโอกาสเท่าเส้นผม แต่ถ้าไม่เรียกก็ไม่รู้ ตรงนั้นผมขอสมมุติเรียกว่า ประตูช่องว่างแห่งนิพพาน ดับขันธ์ด้วยความบริสุทธิ์เหนือสมมติใดใดโดยสิ้นเชิง ไม่เรียกว่าตกอยู่ในณาน หรือ ญาน ใดๆ เป็นเพียงช่องประตูระหว่างช่องเล็กๆเท่านั้น ให้แทรกตัวออกไปได้ เหนือสมมุติใดๆ ไม่มีคำเรียก ไม่มีหรือไม่มีไม่มีคำเรียก มันว่างเหมือนเปิดประตูแล้วเดินออกไปเลยเท่านั้น
คนเขียนเรื่องนี้ โอ ระยอง
ผมยังมีกิเลศอยู่แต่ก็บางเบา ยังอยู่ในกรรมหน้าที่ ที่มิอาจละทิ้งได้ ยังไม่อาจหลุดพ้นไปได้ในขณะนี้แต่สิ่งหนึ่ง ที่ผมคิดว่าผมมี คือ จิตของผมตื่นแล้ว ตื่นจากความดี และความชั่ว ทั้งมวล
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แค่คิดว่าอยากเป็นคนดี ก็ใช้ได้แล้วเพื่อน
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น