ดำเนินชีวิตอย่างไรให้สำเร็จมรรคผล มรรคมีองค์8 ก็มีอยู่ใน3ข้อนี้เป็นเหมือนบทสรุปให้ปฏิบัติง่ายขึ้นผมเชื่อว่าในโลกนี้ยังมีคนที่งง กับมรรคมีองค์8อยู่ ผมจึงรวมทั้งหมดให้สั้น เพื่อจะได้รู้และคิดทำให้ง่ายขึ้นซึ่งก็ยังเป็นมรรคมีองค์8 มิได้แต่งเติมให้ผิดเพี้ยนไป เพื่อคนที่เข้าใจยาก จะได้เข้าใจแบบภาษาบ้านๆมิได้ขัดแย้งกันในมรรค ขอให้ทุกท่านเข้าใจในความบริสุทธิ์ใจด้วย ซึ่งก็คิดอย่างรอบครอบที่สุดแล้วมิให้กระทบต่อพระพุทธองค์
1.ต้องมีปัญญาดำเนินเรื่อง รู้เมื่อเกิดทุกข์ว่า ทุกข์นี้ได้มาเป็นมาอย่างไร มีทางแก้ทางออกอย่างไรจะลงเอยอย่างไร ท้ายที่สุดจะดับทุกข์นั้นๆอย่างไร คือต้องรู้แจ้งในหนทางดับทุกข์ ก็คือการทำใจไม่ให้เกิดทุกข์รู้ตามความเป็นจริงแห่งกุศลกรรมนั้นๆ
2.ต้องเป็นคนมีศีลมีสัตย์ ก็คือไม่เบียดเบียนผู้อื่นและตัวเอง มีความหวังดีต่อผู้อื่นและตัวเอง มีความรักผู้อื่นเห็นผู้คนร่วมโลกทั้งหมดนี้เป็นมิตรหวังดีต่อเขา มีใจปรารถนาดีต่อทุกคน ไม่อิจฉาริษยาใคร
3.,การลงมือปฏิบัติตามที่รู้มา ทำแล้วเป็นหนทางสู่ความหลุดพ้น ทำแล้วเป็นไปตามความจริงแห่งกุศลกรรมนั้นๆทำจนถึงที่สุดแห่งกองทุกข์นั้นๆจนหมดสิ้นอาสวะกิเลศทั้งสิ้นทั้งปวง
..................................................................................................................
มรรคมีองค์แปด จะเข้ากับข้อไหนในสามข้อของผมบ้างครับดูตามไปครับ
องค์มรรคที่1 กะตะมา จะ ภิกขะเว สัมมาทิฏฐิ (การความเห็นชอบ)
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความรู้อันใดเป็นความรู้ในทุกข์ เป็นความรู้ในเหตุให้เกิดทุกข์ เป็นความรู้ในการดับแห่งทุกข์เป็นความรู้ในการดำเนิน ให้ถึงความดับแห่งทุกข์ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันนี้เรากล่าวว่าความเห็นชอบ
องค์มรรคที่1 เข้ากับข้อที่1 ของผมครับ" ถ้าจะคิดง่ายๆก็คือ อริยสัจ4 ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค นั่นเอง
องค์มรรคที่2 กะตะโม จะ ภิกขะเว สัมมาสังกัปโป (ความดำริชอบ)ความดำริชอบในการ ออกจากกาม ความดำริชอบในการไม่ปองร้าย ความดำริชอบในการไม่เบียดเบียนดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันนี้เรากล่าวว่า ความดำริชอบ
มรรคองค์ที่2 เข้ากับข้อ 1.ของผมคือ ในการออกจากกาม ก็ต้องมีศีล มีปัญญารู้ทันกามในข้อที่1 รู้ว่าเป็นทุกข์ แล้วจึงลงมือปฏิบัติธรรม เพื่อออกจากกาม ตามข้อที่3 ต่อไป อย่างถูกต้องต่อไป เหมือนกันและการไม่ปองร้าย ก็เข้ากับข้อที่2 ของผมตั้งไว้ การไม่เบียดเบียน ก็เข้ากับข้อที่2 ของผม เหมือนกัน
องค์มรรคที่3 กะตะมา จะ ภิกขะเว สัมมาวาจา (การพูดชอบ)เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการพูดไม่จริง เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการพูดส่อเสียดเจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการ พูดคำหยาบ เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการพูดเพ้อเจ้อดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันนี้เรากล่าวว่าการงานชอบ
มรรคองค์ที่3 เข้ากับข้อที่2ของผม คือต้องมีศีล ข้อ มุสาวาทา เวรมณี เหมือนกัน
องค์มรรคที่4 กะตะโม จะ ภิกขะเว สัมมากัมมันโต(การงานชอบ)เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการฆ่าสัตว์ เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการถือเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้แล้วเจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการประพฤติผิดในกามทั้งหลาย ดูก่อนภิกษุทั้งหลายอันนี้เรากล่าวว่า การงานชอบ
มรรค์องค์ที่4 ก็เข้ากับข้อ2 คือมีศีลมีสัตย์ ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักขโมย ไม่ผิดในกาม เหมือนกัน
องค์มรรคที่5 กะตะโม จะ ภิกขะเว สัมมาอาชีโว (การเลี้ยงชีวิตชอบ)ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สาวกของพระอริยะเจ้าในธรรมวินัยนี้ ละการเลี้ยงชีวิตที่ผิดเสียย่อมสำเร็จความเป็นอยู่ ด้วยการเลี้ยงชีวิตที่ชอบดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันนี้เรากล่าวว่า การเลี้ยงชีวิตชอบ
มรรคองค์ที่5 การเลี้ยงชีวิตชอบ ต้องมีปัญญามีเหตุและมีผล ต้องมีศีลมีสัตย์ และมีข้อปฏิบัติธรรมที่ดีและถูกต้อง จึงจะมีความสุข เข้าได้กับทั้ง3ข้อของผม เหมือนกัน
องค์มรรคที่6 กะตะโม จะ ภิกขะเว สัมมาวายาโม (ความเพียรชอบ)ย่อมทำความพอใจให้เกิดขึ้น ย่อมพยายามปรารภความเพียร ประคองตั้งจิตไว้ เพื่อจะยังอกุศลธรรมอันเป็นบาปที่ยังไม่เกิดไม่ให้เกิดขึ้น ย่อมทำความพอใจให้เกิดขึ้น ย่อมพยายามปรารภความเพียร ประคองตั้งจิตไว้ เพื่อละอกุศลธรรม อันเป็นบาปที่เกิดขึ้นแล้วย่อมทำความพอใจให้เกิดขึ้น ย่อมพยายามปรารภความเพียร ประคองตั้งจิตไว้เพื่อจะยังกุศลธรรม ที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้นย่อมทำความพอใจให้เกิดขึ้น ย่อมพยายามปรารภความเพียรประคองตั้งจิตไว้เพื่อความตั้งอยู่ความไม่เลอะเทอะ ความงอกงามยิ่งขึ้น ความไพบูลย์ ความเจริญความเต็มรอบแห่งกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้วดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันนี้เรากล่าวว่า ความเพียรชอบ
มรรคองค์ที่6 ความเพียรในการ ประคองตั้งจิต เพื่อจะละ และ ยัง กุศลธรรม และอกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว และยังไม่ได้เกิด ส่วนที่เกิดแล้วก็ตามรู้ ด้วยเหตุและผล ที่ยังไม่ได้เกิด ก็ตามรู้ว่าจะต้องปฏิบัติยังไง ให้เกิดผลดี แล้วจะละยังไง ในส่วนที่เกิดขึ้นแล้ว จะปฏิบัติยังไง ส่วนที่เป็นกุศล ก็ปฏิบัติให้มันเจริญงอกงามยิ่งๆขึ้นไป ในส่วนที่เป็น อกุศล ก็รู้จักการปฏิบัติ ว่าจะละ อย่างไร ความเพียรก็คือการปฏิบัติ เช่นกันเหมือนกัน เหมือนข้อที่3ของผมการลงมือปฏิบัติความเพียร เพื่อ ละ เลิก และทำให้งอกงาม และการทำความเพียร ก็ต้องใช้ปัญญาตามข้อ1 คือต้องมีเหตุและผล เข้าข้อ2ด้วยคือต้องมีศีลมีสัตย์ ทุกข้อก็รวมกันอยู่ตรงนี่
องค์มรรคที่7 กะตะมา จะ ภิกขะเว สัมมาสติ (ความระลึกชอบ)ย่อมเป็นผู้พิจารณาเห็นกายในกาย อยู่เป็นประจำ มีความเพียรปฏิบัติเป็นเครื่องเผากิเลศมีสัมปชัญญะ มีสติ ถอนความพอใจและความไม่พอใจในโลก ออกเสียได้ย่อมเป็นผู้เห็นเวทนาในเวทนา ทั้งหลายอยู่เป็นประจำ ย่อมเป็นผู้พิจารณาเห็นจิตใจจิตอยู่เป็นประจำย่อมเป็นผู้พิจารณา เห็นธรรมในธรรมอยู่เป็นประจำดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันนี้เรากล่าวว่า ความเพียรชอบ
มรรคองค์ที่7 ความระลึกชอบ ย่อมเป็นผู้พิจารณา การพิจารณา ก็ต้องใช้ปัญญา ตรงตามข้อ1ของผมเมื่อใช้ปัญญาพิจารณาแล้ว เห็นกายในกาย เห็นเวทนาในเวทนา เห็นธรรมในธรรม ก็ต้องปฏิบัติถึงจะเห็นเรียกว่ามีความเพียรปฏิบัติให้รู้จริง ในกาย เวทนา ธรรม ก็มีอยู่ในสามข้อของผมเหมือนกัน
องค์มรรคที่8 กะตะโม จะ ภิกขะเว สัมมาสมาธิ (ความตั้งใจมั่นชอบ)ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ สงัดแล้วจากกามทั้งหลาย สงัดแล้วจากธรรมอันเป็นอกุศลทั้งหลายเข้าถึง ปฐมฌาน ประกอบด้วยวิตกวิจาร มีปีติและสุข อันเกิดแต่วิเวกแล้วแลอยู่เมื่อวิตกวิจาร ระงับลง เข้าถึง ทุติยฌาน เป็นเครื่องผ่องใสแห่งใจภายในให้สมาธิเป็นธรรมอันเอกผุดขึ้น ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร มีแต่ปีติและสุข อันเกิดจากสมาธิ แล้วแลอยู่อนึ่ง เพราะความจางคลายไปแห่งปีติ ย่อมเป็นผู้อยู่เฉย มีสติสัมปชัญญะ และย่อมเสวยความสุขด้วยนามกายชนิดที่พระอริยะเจ้าทั้งหลาย ย่อมกล่าวสรรเสริญ ผู้นั้นว่า ""เป็นผู้อยู่เฉยมีสติ อยู่เป็นปกติสุข""ดังนี้เข้าถึงตติยฌาน แล้วแลอยู่ และเพราะละสุขเสียได้ และเพราะละทุกข์เสียได้เพราะความดับไปแห่งโสมนัส และโทมนัส ในกาลก่อนเข้าถึงจตุตถฌาน ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข มีแต่ความที่มีสติเป็นธรรมชาติบริสุทธิ์เพราะอุเบกขา แล้วแลอยูดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันนี้เรากล่าวว่า ความตั้งใจมั่นชอบ
มรรคองค์ที่8 เข้ากับข้อที่2ของผมคือต้องมีศีล จึงจะสงัดจากกามได้ สงัดจากธรรมไม่ดีทั้งหลายหากเป็นคนไม่มีศีล จะปฏิบัติตามนี้ เข้าถึงจตุตถฌาน ไม่ได้เลย ก็เข้ากับข้อที่สามของผม คือการปฏิบัติที่ถูกต้อง แล้วก็เข้ากับข้อที่1ด้วย ก็คือการใช้ปัญญาในการปฏิบัติ ทำให้ได้ปัญญาญาณ ที่บริสุทธิ์เป็นธรรมชาติ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แค่คิดว่าอยากเป็นคนดี ก็ใช้ได้แล้วเพื่อน
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น