วันพุธที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ไม่ลัก ๗ เรื่อง


ไม่ลัก ๗ เรื่อง
[๑๔๗] ๑. ก็โดยสมัยนั้นแล พวกขโมยลักมะม่วง ทำมะม่วงให้หล่นแล้วห่อถือไป
พวกเจ้าของติดตามพวกขโมยเหล่านั้นไป พวกขโมยเห็นพวกเจ้าของ แล้วทิ้งห่อมะม่วงหนีไป
ภิกษุทั้งหลายมีความสำคัญว่าเป็นของบังสุกุล จึงพากันเก็บมะม่วงห่อนั้นไปฉัน พวกเจ้าของโจท
ภิกษุเหล่านั้นว่า พวกท่านไม่เป็นสมณะ ภิกษุเหล่านั้นมีความรังเกียจ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้
มีพระภาค พระผู้มีพระภาค ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธอคิดอย่างไร?
ภิ. พวกข้าพระพุทธเจ้า สำคัญว่าเป็นของบังสุกุล พระพุทธเจ้าข้า
ภ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ไม่เป็นอาบัติแก่ภิกษุผู้มีความสำคัญว่าเป็นของบังสุกุล
๒. ก็โดยสมัยนั้นแล พวกขโมยลักชมภู่ ทำชมภู่ให้หล่นแล้วห่อถือไปพวกเจ้าของติด
ตามพวกขโมยเหล่านั้น พวกขโมยเห็นพวกเจ้าของ แล้วทิ้งห่อชมพู่หนีไป ภิกษุทั้งหลายมีความ
สำคัญว่าเป็นของบังสุกุล จึงพากันเก็บชมพู่ห่อนั้นไปฉัน พวกเจ้าของโจทภิกษุเหล่านั้นว่า พวก
ท่านไม่เป็นสมณะ ภิกษุเหล่านั้นมีความรังเกียจ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มี-
พระภาค ตรัสถามว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธอคิดอย่างไร?
ภิ. พวกข้าพระพุทธเจ้า มีความสำคัญว่าเป็นของบังสุกุล พระพุทธเจ้าข้า
ภ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ไม่เป็นอาบัติแก่ภิกษุผู้มีความสำคัญว่าเป็นของบังสุกุล
๓. ก็โดยสมัยนั้นแล พวกขโมยลักขนุนสำมะลอ ทำขนุนสำมะลอให้หล่นแล้วห่อถือไป
พวกเจ้าของติดตามพวกขโมยเหล่านั้น พวกขโมยเห็นพวกเจ้าของ แล้วทิ้งห่อขนุนสำมะลอหนี
ไป ภิกษุทั้งหลายมีความสำคัญว่าเป็นของบังสุกุล จึงพากันเก็บขนุนสำมะลอห่อนั้นไปฉัน พวก
เจ้าของโจทภิกษุเหล่านั้นว่า พวกท่านไม่เป็นสมณะ ภิกษุเหล่านั้นมีความรังเกียจ จึงกราบทูลเรื่อง
นั้นแด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาค ตรัสถามว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธอคิดอย่างไร?
ภิ. พวกข้าพระพุทธเจ้า มีความสำคัญว่าเป็นของบังสุกุล พระพุทธเจ้าข้า
ภ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ไม่เป็นอาบัติแก่ภิกษุผู้มีความสำคัญว่าเป็นของบังสุกุล
๔. ก็โดยสมัยนั้นแล พวกขโมยลักขนุน ทำขนุนให้หล่นแล้วห่อถือไป พวกเจ้าของ
ติดตามพวกขโมยเหล่านั้น พวกขโมยเห็นพวกเจ้าของแล้วทิ้งห่อขนุนหนีไป ภิกษุทั้งหลายมีความ
สำคัญว่าเป็นของบังสุกุล จึงพากันเก็บขนุนห่อนั้นไปฉัน พวกเจ้าของโจทภิกษุเหล่านั้นว่า พวก
ท่านไม่เป็นสมณะ ภิกษุเหล่านั้นมีความรังเกียจ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มี-
พระภาค ตรัสถามว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธอคิดอย่างไร?
ภิ. พวกข้าพระพุทธเจ้า มีความสำคัญว่าเป็นของบังสุกุล พระพุทธเจ้าข้า
ภ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ไม่เป็นอาบัติแก่ภิกษุผู้มีความสำคัญว่าเป็นของบังสุกุล
๕. ก็โดยสมัยนั้นแล พวกขโมยลักผลตาลสุก ทำผลตาลสุกให้หล่นแล้วห่อถือไป
พวกเจ้าของติดตามพวกขโมยเหล่านั้น พวกขโมยเห็นพวกเจ้าของ แล้วทิ้งห่อผลตาลสุกหนีไป
ภิกษุทั้งหลายมีความสำคัญว่าเป็นของบังสุกุล จึงพากันเก็บผลตาลสุกห่อนั้นไปฉัน พวกเจ้าของ
โจทภิกษุเหล่านั้นว่า พวกท่านไม่เป็นสมณะ ภิกษุเหล่านั้นมีความรังเกียจ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่
พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาค ตรัสถามว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธอคิดอย่างไร?
ภิ. พวกข้าพระพุทธเจ้า มีความสำคัญว่าเป็นของบังสุกุล พระพุทธเจ้าข้า
ภ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ไม่เป็นอาบัติแก่ภิกษุผู้มีความสำคัญว่าเป็นของบังสุกุล
๖. ก็โดยสมัยนั้นแล พวกขโมยลักอ้อย ตัดอ้อยแล้วห่อถือไป พวกเจ้าของติดตาม
พวกขโมยเหล่านั้น พวกขโมยเห็นพวกเจ้าของ แล้วทิ้งห่ออ้อยหนีไป ภิกษุทั้งหลายมีความสำคัญ
ว่าเป็นของบังสุกุล จึงพากันเก็บอ้อยห่อนั้นไปฉัน พวกเจ้าของโจทภิกษุเหล่านั้นว่า พวกท่าน
ไม่เป็นสมณะ ภิกษุเหล่านั้นมีความรังเกียจ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาค
ตรัสถามว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธอคิดอย่างไร?
ภิ. พวกข้าพระพุทธเจ้า มีความสำคัญว่าเป็นของบังสุกุล พระพุทธเจ้าข้า
ภ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ไม่เป็นอาบัติแก่ภิกษุผู้มีความสำคัญว่าเป็นของบังสุกุล
๗. ก็โดยสมัยนั้นแล พวกขโมยลักมะพลับ เลือกเก็บมะพลับแล้วห่อถือไป พวก
เจ้าของติดตามพวกขโมยเหล่านั้น พวกขโมยเห็นพวกเจ้าของ แล้วทิ้งห่อมะพลับหนีไป ภิกษุ
ทั้งหลายมีความสำคัญว่าเป็นของบังสุกุล จึงพากันเก็บมะพลับห่อนั้นไปฉัน พวกเจ้าของโจทภิกษุ
เหล่านั้นว่า พวกท่านไม่เป็นสมณะ ภิกษุเหล่านั้นมีความรังเกียจ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้
มีพระภาค พระผู้มีพระภาค ตรัสถามว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธอคิดอย่างไร?
ภิ. พวกข้าพระพุทธเจ้า มีความสำคัญว่าเป็นของบังสุกุล พระพุทธเจ้าข้า
ภ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ไม่เป็นอาบัติแก่ภิกษุผู้มีความสำคัญว่าเป็นของบังสุกุล.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แค่คิดว่าอยากเป็นคนดี ก็ใช้ได้แล้วเพื่อน

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น