โลกนี้จักรวาลนี้เกิดขึ้นได้ยังไงมองกันในทางธรรมะ

โลกนี้จักรวาลนี้เกิดขึ้นได้ยังไง ไม่มีใครตอบได้ตรงเป๊ะหรอก มีแต่สัณนิฐานกันไปต่างๆนาๆอย่างโน้นอย่างนี้หากตอบแบบทางธรรม โลกนี้จักรวาลนี้ เกิดขึ้นมาจาก ความไม่รู้(อวิชชา)ว่ามันเกิดขึ้นมาได้ยังไงและถูกวางอย่างเป็นระบบได้ยังไง เราก็มาดูว่า ไอ้ความไม่รู้เนี๊ยะ มันอยู่ตรงไหน ใครนะบอกว่าไม่รู้ซึ่งมันก็คือตัวของเราเอง ที่บอกว่าไม่รู้ๆ ถ้าเรารู้ก็ไม่ถาม ไม่สงสัย ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง ใช่ไหมโลกนี้จักรวาล นี้ มันเกิดจากจิตศึกษา จิตนั้นได้เก็บข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ ของโลก เท่าที่จะรู้ได้จิตของมนุษย์จึงรู้เรื่องของโลกและจักรวาลเท่าที่ได้เห็นและรู้มาเท่านั้น แต่ทุกคนก็รู้ได้ไม่เท่ากันก่อนที่จิตจะศึกษา มันไม่รู้เรื่องโลกเลยว่ามีหรือไม่มี พอจิตมันศึกษามันก็เอาโลกมาปั้นแต่งจนมีรายละเอียดของโลกมากมาย หากสมมุติว่าเราเอาความรู้เรื่องโลกของมนุษย์ทุกคนมารวมกันเป็นก้อนเดียวคงจะรู้มากอย่างมหัศจรรย์ แล้วเราก็เอาความรู้เรื่องโลกและจักรวาลทั้งหมดที่รวมกันอยู่นี้ทิ้งไปไม่มีเหลือมันก็ไม่มีใครคิดเรื่องโลกและจักรวาลนี้แล้วมันจะมีหรือไม่มีทีนี้ใครจะรู้ จิตศึกษาปรุงแต่ง สร้างบ้านเริ่มจากร่างกาย กลายเป็น หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ ประเทศ ทวีป ขยายขึ้นไปเรื่อยๆจนกลายเป็นโลกเป็นจักรวาลแล้วก็จักรวาล แล้วฝังใจว่า นี่คือที่อยู่อาศัย จะขาดเสียมิได้ หากขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งแล้ว ชีวิตจะหาไม่ เป็นไปตามสัญชาตญาณความอยู่รอดของจิตศึกษาซึ่งเป็นไปโดยเราไม่รู้สึกตัวมันค่อยๆกลืนกินฝังเข้าไปในจิตว่านี่คือบ้านคือโลกนี่คือจักรวาล เป็นที่อยู่อาศัยของเรา มันเป็นอย่างนี้ๆ จะขาดเสียมิได้ แล้วเราก็ทำมาหากินของเราไป โดยไม่ได้คิดลึกซึ้งถึงจุดนี้เพราะมันเป็นสัญชาตญาณของจิตศึกษา ที่จะต้องสร้างบ้านเพื่ออยู่อาศัยและปลอดภัย ก็คือโลกและจักรวาลนี้ เพื่อความอยู่รอดของมันเองโดยอัตโนมัติ เราบอกกันอย่างนี้ในทางธรรม ซึ่งธรรมก็คือหน้าที่ที่ต้องทำของธรรมชาตินั่นเอง