พระพุทธเจ้า ก่อนสิ้นใจท่านเข้าณาน ไปจนสุด จนไปไม่ได้แล้ว บางคนเรียกว่าณานที่10 คือดับ กิเลศนั้นดับหมด เป็นณานแห่งพระอรหันต์เจ้าเท่านั้น แต่นั่น ก็นั่นก็ยังติดอยู่ยังไปนิพพานไม่ได้ ก็คือติดในณานแม้จะสูงสุดแล้วก็ยังเป็นณาน ยังเป็นโลกียะอยู่ ถ้าตายตรงนี้น่าเสียดายมาก เพราะจะได้เกิดไปเป็นพรหมเสวยสุขเป็นขสงไขย หลังจากท่านเข้าณาน10แล้ว ท่านก็ค่อยๆ ถอยหล่นจิตมาที่ณาน4ซึ่งเป็นณานที่สำคัญมากณาน4เป็นณานที่เอาความรู้ทั้งมวล มารวมไว้ เป็นกลางๆสบายๆ เป็นญานแห่งปัญญา รู้ได้เอง มิได้เอาจิตเข้าไปรู้ รู้ถึงขันธ์5 แล้วดับได้โดยมีตัวปัญญาธรรมชาติอยู่ ไม่เหมือนณาน10 ที่ดับไปเป็นนิโรธ ถ้าดับตรงณาน10 น่าเสียดายมาก หลังจากท่านทรงณาน4แล้ว คำนึงทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมารู้แจ้งแล้ว เป็นสภาพเหมือนจิตนั้นไม่มีตัวไม่มีตนแล้ว คือขันธ์ดับแล้ว โดยความรู้ธรรมชาติ แล้วท่านก็ออกหรือปล่อยณาน4 แล้วดับขันธ์ผมจะเรียกว่า วางขันธ์ วางทุกสิ่ง เป็นช่องว่างระหว่างณาน4 ซึ่งเป็นหนทางสู่พระนิพพาน ดับลงอย่างสนิทท่านไม่ได้ดับที่ณานไหนเลย ท่านปล่อยณาน แล้วดับตรงจุดนิพพาน เหมือนดวงไฟที่ลุกอยู่กลางอากาศแล้วดับพรึบ มิได้กำหนดจะไปทิศทางใด นั่นคือนิพพาน แม้แต่ทางไปก็มิได้กำหนดหมายกำหนดรู้สิ่งนี้ก็มิได้ให้ทุกท่านมาเชื่อผมนะครับ ให้ลองคิดลองทำ อย่างน้อย ก็ได้ความรู้ บางคำรู้แต่อธิบายเป็นตัวหนังสือ ยากมาก ไม่กำซาบเท่าจิตรู้เลย คงจะมีประโยชน์บ้างนะครับ อย่างน้อย ก็ไปทางบวกมากกว่าทางลบ ขอบคุณทุกท่านมากครับที่อ่าน
..........................................................................................................
ขออย่างเดียวอย่าคิดแทนคนอื่น นะครับ เพราะคนอื่นเขาคิดเป็น ให้เขาคิดเอง ตัดสินใจเองครับบริสุทธิ์ใจครับ เคารพในสิทธิ์ที่มี ของทุกท่านครับ ผมไม่ได้เก่งอะไร ผมยังมีกิเลศ เพียบ เพียงแต่รู้บางอย่างก็ยังปฏิบัติไม่ได้ ได้แต่รู้ รู้ เพียงคิดว่าสักวัน หนึ่ง ในบั้นปลาย คงจะได้ใช้ไป อย่างแน่นอน
เหมือนวิศวกร ที่สร้างบ้านให้คนอื่น แต่บ้านของตัวเอง ยังสวย สู้ สร้างบ้านให้คนอื่นยังไม่ได้เลย
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แค่คิดว่าอยากเป็นคนดี ก็ใช้ได้แล้วเพื่อน
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น