คนกันเละ เละคือคน
ศาสนาคือการเอาความจริงที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้มาสอน ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงความจริงได้หรอก การเกิดมีกายเป็นมนุษย์นั้นเพื่อให้รู้การบุญการกุศล บาปบุญคุณโทษ นรก สวรรค์ ชั้นพรหม เทวดา ถือสมมุติไว้สูงสุดก็คือนิพพานเท่านั้นเมื่อถึงเวลาไปสมมุติต่างๆนั้นก็ต้องทิ้งไปคืนสู่โลก ไม่มีหลงเหลืออยู่ เป็นบรมสุขอยู่อย่างนั้น
จึงว่ามีก็ได้ ไม่มีก็ได้ ไม่ผิด อะไร
นิพพาน คือสิ่งสมมุติ
สิ่งสมมุติ ก็ไม่ใช่นิพพาน
...โลกุตระ...บรมสุข...
การดับจิต แล้วคิดว่าไม่มีโลกหน้าหรือไม่มีนิพพานนั้นก็ได้เข้านิพพานเหมือนกันแต่เป็นนิพพานโลกีย์ ซึ่งมีเป็นจำนวนมากที่ได้นิพพานโลกีย์ นิพพานโลกีย์กับนิพพานโลกุตระนั้นก็ถือว่าสุขเลิศโลกเสมอกันเพียงแต่นิพพานโลกีย์นั้นเมื่อสิ้นฌานแล้วจะต้องกลับมาเกิดอีกซึ่งอายุของนิพพานโลกีย์หรือเราจะเรียกว่าพระพรหมชั้นสูงสุดที่อยู่ในอรูปพรหมนั้นมีอายุยืนยาวมากนับประมาณมิได้ก็เพราะว่าก่อนตายจิตนั้นคิดว่าไม่มีการกลับมาเกิดไม่มีอะไรในโลกหน้าตายแล้วสูญจิตนั้นยังไม่สามารถดับวิญญาณได้ วิญญาณนั้นก็พาจิตนั้นไปอยู่ในที่ๆที่คิดไว้ในที่ไม่มีรูปเรียกว่าอรูปพรหม เป็นนิพพานโลกีย์ที่เลิศโลกเหมือนนิพพานโลกุตระการจะถึงซึ่งโลกุตระนั้นต้องดับวิญญาน ซึ่งก็เป็นขันธ์ห้าเสียก่อนดับวิญญาณไม่ได้เข้าโลกุตระไม่ได้ ในนิพพานโลกุตระนั้นไม่มีวิญญาณเมื่อไม่มีวิญญาณจิตก็อยู่ไม่ได้เมื่อไม่มีจิตไม่มีวิญญาณก็ไม่ต้องมาเกิดอีก สุขอยู่กับอะไรสุขอยู่กับการรู้แจ้งโลกครอบอนันตจักรวาลน้อยใหญ่ จิตนั้นมันสร้างมาไว้ให้เราเรานั้นมาอาศัยอยู่ที่หลังโดยอาศัยอำนาจของกิเลศตัณหาครอบงำจิต เมื่อตายก็ต้องคืนจิตนั้นสู่โลกจะหอบหิ้วขโมยเอาไปด้วยในโลกุตระนิพพานนั้นไม่ได้ไม่สมควรทำอย่างยิ่งเพราะจะเสียเวลาและโอกาสที่ยาวนานนับไม่ได้เมื่อพลาดไปแล้วทั้งๆที่ได้เข้าใกล้โลกุตระนิพพานแล้วแต่ทำไม่ได้น่าเสียดายจริงๆ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แค่คิดว่าอยากเป็นคนดี ก็ใช้ได้แล้วเพื่อน
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น