ไม่มีใครสามารถ พาตัวเราไป นรก สวรรค์ พรหม นิพพานได้
นอกจากตัวของเรา อยากจะไปเอง เท่านั้น จึงจะสำเร็จผลได้
การไปนรก เราก็ไปของเราเอง ไม่มีใครมาพาเราไปได้
การไปสวรรค์ เราก็ไปของเราเอง ไม่มีใครพาเราไปได้
การไปพรหม เราก็ไปของเราเอง ไม่มีใครพาเราไปได้
การไปนิพพาน เราก็ไปของเราเอง ไม่มีใครพาเราไปได้
การคิดว่า นรก สวรรค์ พรหม นิพพาน อยู่ตรงนั้นตรงนี้
แล้วคิดว่าเมื่อตายแล้ว จะไปนรก สวรรค์ นั้นจะมีคนพาไปรับไปนั้นไม่ใช่
ใครจะมีเวลาว่างขนาดนั้นมารับเรา คนเราตายทุกวัน ทุกนาที
เราไปของเราเอง ต่างหาก ด้วยแรงแห่งกรรมนั้นๆ ไม่ต้องมารับ ไปเองได้
แต่จะไปเจอกับอะไร นั้นก็แล้วแต่เหตุจึงเกิดผลนั้น นรกสวรรค์นั้นมีจริงๆ
แต่เราต้องไปด้วยตัวของเราเอง ไม่มีใครมารับแล้วพาไปส่งดอก แต่ที่
เราเห็นแล้วคิดว่าใครมารับเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ มันก็แค่นั้น
เหมือนศพเน่าในสายน้ำสายน้ำนั้นก็จะพาศพเน่านั้นไหลไปเอง
ว่าจะไปติดอยู่ซอกหลืบไหน และจะเน่านานแค่ไหน กว่าคนจะมาเจอ
.....ชั้นพรหม เราก็ไปเองไม่มีใครพาเราไปได้
เมื่อใกล้ตายลมหายใจสุดท้ายนั้น คิดว่านิพพานนั้นอยู่เบื้องบน
เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ แล้วคิดเอาจิตขึ้นไปเสวยนิพพานนั้น
ก็ได้ไปอยู่ในชั้นของพรหมซึ่งมีหลายชั้น ตามเหตุแห่งจิตที่ดึงไป
เราไปพรหม เราก็ไปเอง ไม่มีใครมาดึง มารับ มาพา เราไปเลย
........โลกุตระ นิพพาน ก็เช่นกัน เราก็ต้องไปเอง ไม่มีใครมาพาเราไปได้
จะไปได้หรือไม่ได้อยู่ที่ตัวของเราเอง ไม่มีใครมาช่วยเราได้
โลกุตระนิพพานนั้น วิญญานดับ จิตดับ จะเรียกว่าไม่มีวิญญานไม่มีจิต
ก็ไม่ได้ จะเรียกว่ามีวิญญานมีจิตก็ไม่ได้ เหมือนกองไฟที่ดับมอด
แต่ถามว่ากองไฟนั้นยังอยู่ไหมก็ยังอยู่ เพียงแต่ว่าไม่อาจจะติดขึ้นมาได้อีกแล้วเท่านั้น ไม่มีสิ่งปรุงแต่ง เปรียบเป็นเพียงแค่ลมของโลกเท่านั้น
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แค่คิดว่าอยากเป็นคนดี ก็ใช้ได้แล้วเพื่อน
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น